ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ เพิ่มทุน 50.77 ล้านหุ้น ขายหุ้นเดิมสัดส่วน  15 ต่อ 1  ราคาหุ้นละ 12 บาท พร้อมปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจ ให้"เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล" เข้าซื้อ Asia GSA (M) เพื่อเตรียมแผนเข้าระดมทุนในตลาดหุ้นไทย 

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จํากัด (มหาชน) หรือ III เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติการอนุมัติการปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน และการเข้าซื้อกิจการที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดโครงสร้างให้เหมาะสมเพื่อการเตรียมนําบริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จํากัด (ANI) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยอนุมัติให้ 

1. SUPERIOR GSA PTE. LTD. (“Superior”) ซึ่งถือหุ้นโดยบริษัท ANI  ลงทุนใน ASIA GSA (M) จากเดิมถือหุ้นร้อยละ 20 เป็นถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100  โดยซื้อหุ้นจาก ANG TECK CHOON SIMON และ CATHERINE POON KUM YIN@ ANNIE POON รวมทั้งสิ้น 1.6 ล้านหุ้น รวมมูลค่า 212.3 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 5,520 ล้านบาท โดยจะชำระค่าหุ้น 2 วิธี 

    1.1 หุ้นจํานวน 217,391 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 10.9 ของหุ้นทั้งหมด มูลค่ารวมประมาณ 28.85 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 750 ล้านบาท จะชําระด้วยวิธีแลกหุ้น (share swap) โดย Superior ออกหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ขายจํานวน 18,138 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1,590.31 ดอลลาร์สิงคโปร์หรือ เทียบเท่ากับประมาณ 41,348 บาทต่อหุ้น

    1.2 หุ้นจํานวน 1,382,609 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 69.1 ของหุ้นทั้งหมด มูลค่ารวมประมาณ 183.45 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ หรือประมาณ 4,770 ล้านบาท จะแบ่งชําระด้วยเงินสดโดยกู้ยืมจาก ANI ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ Superior ประมาณ 1,800 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจากการชําระค่าหุ้นด้วยเงินสดจะเป็นการชําระตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงไว้กับผู้ขาย    

    จากแผนการลงทุนดังกล่าว ANI จึงจําเป็นต้องเพิ่มทุนอีกจํานวน 61,472,950 บาท โดยการออกหุ้น สามัญใหม่จํานวน 2,458,918 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 25 บาท เสนอขายในอัตราหุ้นละ 305 บาท (มีส่วนลํ้ามูลค่าหุ้น280 บาทต่อหุ้น) เพื่อนําหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวไปชําระค่าหุ้น Superior ให้แก่ผู้ขาย

2) การขายหุ้นทั้งหมดในบริษัท ทริพเพิล ไอ เอเชีย คาร์โก จํากัด (TAC) ที่บริษัทฯ ถือหุ้นร้อยละ 99.99 ให้กับ ANI โดยแลกกับหุ้นสามัญ เพิ่มทุนของ ANI จํานวน 550,798 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 25 บาท ในราคาหุ้นละ 305 บาท รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น จํานวนไม่เกิน 168 ล้านบาท  

นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัท ยังมีมติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ อีก 25.38 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 380.81 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียน 406.20 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 50.77 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุุ้นละ 0.50 บาท จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนในอัตรา  15 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญเพิ่มทุน ในราคาหุ้นละ 12 บาท กําหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน (Record Date) ในวันที่ 8 ธันวาคม 2565 และกําหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในวันที่ 26 – 30 ธันวาคม 2565

สำหรับวัตถุประสงค์การเพิ่มทุน เพื่อสร้างฐานะทางการเงินของบริษัทฯ ให้มีความแข็งแกร่ง ตลอดจนเสริม สภาพคล่องของบริษัทฯ เพื่อรองรับการดำเนินงานปกติและการลงทุนในอนาคต