บล.กรุงศรีมองทิศทาง ตลาดหุ้นวันนี้แกว่งตัวในกรอบ 1,670 - 1,690 จุด ได้แรงหนุนราคาน้ำมันพุ่ง จับตาสหรัฐ EU นาโต กลุ่ม G7 กำหนดมาตรการคว่ำบาตรระลอก 5 ต่อรัสเซีย แนะ 2 หุ้นเด่น TOP-BDMS
นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวในกรอบ 1,670 - 1,690 จุด แม้จะได้แรงหนุนกลุ่มพลังงานตามราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้น หลังคาซัคสถานระงับส่งออกน้ำมัน จากผลกระทบพายุ อย่างไรก็ตาม ต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งขึ้นจะเร่งให้เงินเฟ้อสูงขึ้นส่งผลให้ FED เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้สถานการณ์สงครามยูเครน-รัสเซียที่ไม่แน่นอน รวมถึงตลาดหลักทรัพย์ ปรับมาตรการกำกับการซื้อขายหุ้น Cash balance จะเป็นแรงกดดันทิศทางการลงทุน
โดยวันนี้ ยังมีประเด็นที่ต้องติดตาม กรณีสหรัฐ EU นาโต กลุ่ม G7 ประชุมกำหนดมาตรการคว่ำบาตรระลอกที่ 5 ต่อรัสเซีย
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้เลือกซื้อเป็นรายตัว กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบ+ค่าการกลั่นทรงตัวระดับสูง เช่น PTTEP TOP IVL SPRC BCP กลุ่มเดินเรือที่ได้ประโยชน์จากค่าระวางเรือเทกองฟื้นตัวขึ้น
เช่น PSL TTA และหุ้นปลอดภัยช่วงตลาดผันผวน ประเภท Defensive stock เช่น BDMS BH INTUCH ADVANC BTS BEM
ส่วนหุ้นแนะนำวันนี้
TOP ราคาเป้าหมาย 63 บาท ไตรมาส1/65 แนวโน้มกำไรพุ่งแรงได้ประโยชน์ 2 เด้งจาก 1) ค่าการกลั่นฟื้นตัวต่อเนื่องคาดเฉลี่ย 1Q22 ที่ระดับ 7-8$/bbl เทียบ 4Q21 ที่ 5-6$/bbl และ 2) ราคาน้ำมันดิบพุ่งทะลุระดับ 110$/bbl หนุนหุ้นโรงกลั่นบันทึกกำไรจากสต๊อกน้ำมันดิบจำนวนมาก
BDMS ราคาเป้าหมาย 31 บาท จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ยังเร่งตัวขึ้นหนุนรายได้จากการตรวจโควิดเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มผู้ป่วนต่างชาติได้ประโยชน์โดยตรงจากมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยงของภาครัฐผ่านมาตรการ Test & Go รวมถึงความการฟื้นความสัมพันธ์ ไทย-ซาอุฯ ช่วยเพิ่มกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลาง
สำหรับประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ดาวโจนส์ร่วง 449 จุด นักลงทุนกลับมากังวลเรื่องเงินเฟ้อหลังราคาน้ำมันดิบพุ่งแรง: ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ลดลง 449 จุด (-1.29%) ปิดที่ระดับ 34,359 จุด เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อพุ่งสูงและจะผลักดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่วันนี้ตลาดรอดูการประชุมของชาติพันธมิตรเพื่อหาแนวทางในการคว่ำบาตรรัสเซียเป็นรอบที่ 5
(+) กลุ่มน้ำมัน – ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งแรงกว่า 5.6 ดอลลาร์จากข่าวคาซัคสถานระงับการส่งออก: ราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นทันทีกว่า 5.66 ดอลลาร์ (+5.2%) ปิดที่ระดับ 114.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังมีรายงานว่าบริษัทแคสเปียน ไปป์ไลน์ คอนซอร์เทียม (CPC) ของคาซัคสถานต้องหยุดส่งออกน้ำมันดิบประมาณ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (1.2% ของความต้องการน้ำมันดิบทั้งโลก) เนื่องจากประสบปัญหาการผลิตจากผลของพายุพัดถล่ม
(+/-) ติดตามส่งออกไทยเดือน ก.พ. คาดยังขยายตัว สงครามยังไม่กระทบ: เรายังมีมุมมองบวกต่อทิศทางการเติบโตของยอดส่งออกในเดือน ก.พ. โดยมีปัจจัยหนุนจากค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่า ศก. ของประเทศคู่ค้ายังขยายตัวได้ดี ส่วนปัจจัยลบจากสงครามคาดว่าจะยังไม่มีผลกับยอดส่งออกในเดือน ก.พ. เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือน (24 ก.พ.) เบื้องต้น Consensus คาดยอดส่งออกเดือน ก.พ. ขยายตัว 10-11%yoy (ม.ค.+8%yoy)