บล. โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยผันผวน จากความตึงเครียดในยูเครน และตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งต่อเนื่องมองดัชนีเคลื่อนไหว 1,675-1,710 จุด แนะกลยุทธ์ลงทุนใน 7 หุ้นเด่น ได้ประโยชน์ราคาน้ำมันแพง ได้แก่ PTTEP-PTT-TOP-PTTGC และหุ้นที่ได้อานิสงส์ราคายางพุ่ง ได้แก่  NER-TRUBB-STA 

นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นว่ามีโอกาสแกว่งตัวผันผวนในลักษณะ Sideway Up ให้กรอบการเคลื่อนไหวของดัชนี 1,675-1,710 จุด โดยมีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์ความตึงเครียด ระหว่างรัสเซียและยูเครน หลังสหรัฐเตือนว่า รัสเซียอาจจะบุกยูเครน ก่อนกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว ในวันที่ 20 ก.พ.นี้ ซึ่งอาจนำไปสู่การคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย ส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันในตลาดโลก 

ประกอบกับ ตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 ปี เป็นปัจจัยเร่งให้ธนาคารกลางสหรัฐ พิจารณาขึ้นดอกเบี้ย เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศ มีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้ง 17 -18 ก.พ. สภาผู้แทนราษฎรเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ

สำหรับกลยุทธ์ลงทุน แนะนำให้ลงทุนในกลุ่มหุ้นที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น เช่น PTTEP, PTT, TOP และ PTTGC รวมทั้งหุ้นที่ได้อานิสงส์จากราคายางที่พุ่งแรงในช่วงไตรมาสแรกหลังความต้องการในตลาดโลก โดยเฉพาะความต้องการในกลุ่มอุตสาหกรรมถุงมือยาง และยานยนต์ มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่  NER, TRUBB และ  STA 

ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า สัปดาห์นี้ราคาทองคำจะแกว่งตัวผันผวน เนื่องจากมีกำหนดประกาศตัวเลขดัชนีเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิตและยอดค้าปลีกของสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะสูงกว่าครั้งก่อนหน้า จากราคาน้ำมันดิบยังคงทรงตัวระดับสูงต่อเนื่อง ทำให้ภาพรวมต้นทุนการผลิตยังคงเร่งตัวขึ้น 

ขณะที่ช่วงปลายสัปดาห์ประกาศรายงานการประชุม FOMC จากครั้งก่อนและจับตาคำแถลงของประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์อย่างนาย เจมส์ บลูลาร์ดที่หนุนเฟดให้ปรับขึ้นดอกเบี้ย 1.0% ภายในกรกฎาคมนี้ อาจส่งผลให้ Bond Yield ทรงตัวระดับ 2.0% ต่อไป ฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำอาจผันผวนในกรอบ 1,830-1,880$/oz หากย่อตัวไม่หลุดแนวรับให้ทยอยเข้าซื้อสะสม