Market

InnovestX คาดประกาศหยุดยิงหนุน SET รีบาวด์
24 มิ.ย. 2568

แนวโน้มตลาดวันนี้ (24 มิ.ย.) บล. อินโนเวสท์ เอกซ์ คาดตลาดมีโอกาสรีบาวด์ หลังลงมาต่อเนื่องทดสอบ Low เดิม 1056 ซึ่งปกติจะมีช่วงหยุดไหลหรือดีดกลับได้ มีแนวรับที่ 1056/1050 ส่วนแนวต้านที่ 1070/1080 อีกทั้งล่าสุดทรัมป์ประกาศอิสราเอล-อิหร่านบรรลุข้อตกลงหยุดยิง คาดหนุนตลาดสินทรัพย์เสี่ยงผ่อนคลาย ส่วนปัจจัยในประเทศติดตามการแถลงมาตรการเศรษฐกิจของรมว. คลัง ในช่วงเที่ยงวันนี้

 

ประเด็นสำคัญ

• วันนี้เวลา 12.00 น. ติดตาม รมว. คลัง แถลงนโยบายกระตุ้น ศก. วงเงิน 1.15 แสนลบ. ที่บอร์ดกระตุ้น ศก. ชุดใหญ่ได้เห็นชอบแล้ว ส่วนใหญ่เป็นโครงการคมนาคม (39.8%), โครงการน้ำ (33.9%), การส่งออก/ผลิตภาพ (9.6%), การท่องเที่ยว (8.7%) เป็นต้น

 

• สรท. ประเมินผลกระทบหากช่องแคบ Hormuz ถูกปิดลง ไทยจะรับผลกระทบด้านต้นทุนอย่างมีนัย เนื่องจากนำเข้าน้ำมันดิบราว 56.5% และปุ๋ย 42.4% ของการนำเข้าทั้งหมด แนะเร่งจัดซื้อจากแหล่งอื่นทดแทน, สำรองน้ำมันดิบมากขึ้น และหนุนการใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดความเสี่ยงระยะยาว

 

• รองนายกฯ ภูมิธรรม เผยความคืบหน้าการปรับ ครม. ว่าการแต่งตั้ง ครม. ชุดใหม่ จะเสร็จสิ้นภายในสัปดาห์นี้ แต่ไม่เปิดเผยว่าใครจะได้รับมอบหมายดูแลกระทรวงใด

 

• สมาคมโรงแรมไทยเรียกร้องนายกฯ ทบทวนมติการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ 400 บาท/วัน ที่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. นี้ โดยเฉพาะในภาคบริการและอุตสาหกรรมโรงแรม จะกระทบต้นทุนราว 10-15% และมีผลกระทบมากในจังหวัดที่มีจำนวน นทท. น้อย เป็นการซ้ำเติมผู้ประกอบการ ท่ามกลางภาคท่องเที่ยวที่ชะลอตัว

 

• ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมวาระพิเศษ 1 ก.ค. กรณี สว. ยื่นถอดถอนนายกฯ – สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีปมคลิปเสียง

 

• ตลท. รับจดทะเบียนหลักทรัพย์ใหม่ 3 DR อ้างอิงหุ้นและ ETF ในฮ่องกง (BABA23, CATL23 และ HSHD23) จัดทำโดย INVX เริ่มเทรดตั้งแต่วันที่ 24 มิ.ย. นี้

 

กลยุทธ์การลงทุน  ช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวผันผวนต่อ หลังเผชิญปัจจัยลบทั้งภายนอกและภายในประเทศ ปัจจัยภายนอกติดตามสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลาง, ข้อตกลงการค้าเพิ่มเติมและการการแจ้งอัตราภาษีแบบฝ่ายเดียวของสหรัฐฯ ต่อประเทศคู่ค้าอื่นๆ ส่วนปัจจัยภายในติดตามความไม่แน่นอนทางการเมืองและความคืบหน้าการออกมาตรการกระตุ้น ศก. ทั้งเที่ยวไทยคนละครึ่งและโครงการกระตุ้น ศก. 1.57 แสนลบ. อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว แต่เป็นลักษณะของการทยอยสะสม กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”

 

Daily top picks

BCPG: วันนี้เราเริ่มต้นทำการวิเคราะห์หุ้น BCPG แนะนำ “Outperform” ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2568 ที่ 7.8 บาทต่อหุ้น (อิงวิธี DCF) โดยปี 2568 คาดกำไรจะเติบโตสูง 32% และเติบโตต่อ 24% ในปี 2569 หนุนโดย 2 ปัจจัยหลัก คือ 1) รายได้จาก Capacity Payment ในสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นมาก และ 2) การเปิดโครงการใหม่ในครึ่งหลังของปี บริษัทซื้อขายที่ PE ปี 2568 เพียง 10.9 เท่า และ P/BV ที่ 0.5 เท่า และคาดให้อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูงปีละ 4.5%

 

KTB: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น มีโอกาสมีแรงซื้อเข้ามาตามภาพของตลาด เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร มี Upside จากการเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลเพิ่ม และ Credit Cost สูงสุดใน1Q68 แล้วมีโอกาสลดลงในช่วงที่เหลือของปี ในขณะที่ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และมี LLR Coverage สูง

 

 

 

 

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com