Market

COTTO โชว์  Q1 กำไรโตพุ่ง  23% มั่นใจ  23 พ.ค. ผู้ถือหุ้นอนุมัติ COTTO  ออกจากตลท. และแลกหุ้น  พร้อมทะยานสู่ตลาดอาเซียนใต้ปีก SCG Decor
26 เม.ย 2566

COTTO โชว์ไตรมาส 1 ปี 2566  มีรายได้จากการขาย 3,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7 %  กำไรพุ่ง 23 %  หลังปรับราคาสินค้าขึ้นบางรายการ และควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบริหาร-ปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต ช่วยลดผลกระทบจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นจากต้นทุนวัตถุดิบและพลังงานโดยเฉพาะราคาก๊าซธรรมชาติ มั่นใจประชุมวิสามัญฯ23 พ.ค.นี้ ผู้ถือหุ้นอนุมัติการเพิกถอน COTTO ออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ พร้อมแลกหุ้นเพื่อต่อยอดขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ครบวงจรในอาเซียน ภายใต้SCG Decor  

 

นายนำพล มลิชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอสซีจี เซรามิกส์ จำกัด (มหาชน) หรือCOTTO และประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอสซีจีเดคคอร์ จำกัด หรือ SCG Decor เปิดเผยถึง งบการเงินรวมก่อนสอบทาน ของCOTTO ในไตรมาสที่ 1 ปี 2566 ว่า บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 3,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) เนื่องมาจากการปรับราคาสินค้าขึ้นบางรายการ แม้ว่าปริมาณการขายภาพรวมจะลดลงร้อยละ 10 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากปริมาณการขายส่งออกที่ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนก็ตาม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีรายได้จากการขายที่ดิน 25 ล้านบาทอีกส่วนหนึ่งด้วย  จึงทำให้มีกำไรสำหรับงวด 260 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

 

ทั้งนี้ ความต้องการใช้กระเบื้องเซรามิกในไตรมาสนี้ มีแนวโน้มทรงตัวจากปีที่ผ่านมาโดยกำลังซื้อชะลอตัวในตลาดชาวบ้านตามอัตราเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ในระดับสูง แต่ในพื้นที่เมืองท่องเที่ยวมีกำลังซื้อฟื้นตัวอย่างชัดเจนโดยได้อานิสงส์จากการท่องเที่ยวที่กลับมาคึกคักและการเปิดประเทศของจีน สำหรับราคาพลังงานยังคงเพิ่มขึ้นแต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราที่ชะลอลงตามสถานการณ์ราคาพลังงานในตลาดโลก

 

“ในไตรมาสที่ 2 คาดว่าจะมีแนวโน้มที่ดี จากการฟื้นตัวในภาคการท่องเที่ยวและความต่อเนื่องของงานโครงการภาคเอกชน ถึงแม้ว่ากำลังซื้อในตลาดชาวบ้านจะยังชะลอตัวก็ตาม นอกจากนี้ยังคงมีความเสี่ยงที่ยังต้องพิจารณา ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกจากวิกฤติเงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงที่อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการสินค้า รวมถึงการผันผวนของราคาพลังงานที่จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิตโดยบริษัทฯ จะยังคงเน้นการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านการบริหารร่วมกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง” นายนำพล กล่าว

 

ในส่วนของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ การพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และการคงสถานะผู้นำตลาดเซรามิกในประเทศนั้น นายนำพลเปิดเผยว่า บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวมาโดยตลอด  อีกทั้งบริษัทจะเร่งต่อยอดพัฒนาสินค้านวัตกรรมและสินค้ามูลค่าเพิ่มที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากกลุ่มผู้บริโภคให้ความสำคัญกับปัจจัย “รักษ์โลก” เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ  อีกทั้งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ลดการใช้พลังงาน และสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยนวัตกรรมสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยบริษัทฯ มีการตั้งเป้าหมายสัดส่วนยอดขายสินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสิ่งแวดล้อมฉลาก SCG Green Choice เป็นจำนวนร้อยละ80 ของรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์ภายในปี 2573

 

“เมื่อต้นปี 2565 COTTO ได้เปิดตัว กระเบื้อง ECO Collection ที่ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติลงร้อยละ 80 จากการนำของเหลือในกระบวนการการผลิตกลับมาใช้ใหม่ตามแนวทาง Zero Waste รวมถึงลดการใช้น้ำในกระบวนการผลิต และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขนส่งลงถึงร้อยละ 75 ปัจจุบันผ่านมาแล้ว 1 ปีล่าสุด กระเบื้อง ECO Collection ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่สมาคมสถาปนิกสยามแนะนำ  ผู้บริโภคและลูกค้ากลุ่มเป้าหมายก็พร้อมที่จะให้การตอบรับและสนับสนุนผลิตภัณฑ์ ตลอดจนองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมเช่นกัน” นายนำพล กล่าว

 

ด้านความคืบหน้าเรื่องการขออนุมัติผู้ถือหุ้นนั้น COTTO จะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นขึ้นในวันที่ 23 พฤษภาคมนี้  นายนำพล กล่าวว่า  คณะกรรมการบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะได้รับการสนับสนุนและได้รับการอนุมัติอย่างเป็นเอกฉันท์จากผู้ถือหุ้น เนื่องจาก SCG Decor ได้ประกาศแผนที่จะเสนอซื้อหุ้นทั้งหมดของ COTTO ในราคา 2.40 บาทต่อหุ้นซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายปัจจุบัน และสูงกว่าราคา ณ วันที่ประกาศ ที่สำคัญSCG Decor ยังเป็นบริษัทแกนหลักของ SCG และเป็นผู้นำธุรกิจตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ครบวงจรในอาเซียนซึ่งเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 6 เท่า จึงมีโอกาสที่จะเติบโตและสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้มากกว่า หลังจากที่ SCG Decor ได้เข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แล้ว

 

“ขณะนี้ COTTO และ SCG Decor ได้ร่วมกันเผยแพร่ข้อมูลโดยละเอียดอย่างโปร่งใสผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งเว็บไซต์ของบริษัทและตลาดหลักทรัพย์ฯ รวมถึงสื่อมวลชนทุกแขนง เพื่อสร้างความเข้าใจและสร้างความกระจ่างถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจของSCG Decor ตลอดจนขั้นตอนการดำเนินการตามกรอบเวลาของสำนักงาน ก.ล.ต. โดยกำลังเตรียมการอย่างเต็มที่เพื่อชี้แจงและตอบข้อซักถามของผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่านโดยละเอียด นอกจากนี้ ในช่วงปลายเดือนเมษายน ต้นเดือนพฤษภาคม SCG Decor ยังเตรียมที่จะพบปะกับผู้ถือหุ้น COTTO ทั้งที่เป็นนักลงทุนสถาบันและรายย่อยเพื่ออธิบายถึงแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจให้มากขึ้นด้วย” 

 

ทั้งนี้ ก่อนที่จะนำเสนอเพื่อขออนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น คณะกรรมการบริษัทได้พิจารณาไตร่ตรองเรื่องการปรับโครงสร้างร่วมกับ SCG Decor โดยถี่ถ้วน และให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งกับประโยชน์ของผู้ถือหุ้น เพื่อให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทุกท่านสามารถให้ความไว้วางใจ และให้การสนับสนุนบริษัทฯ ได้อย่างมั่นใจ

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com