Market

หุ้นกลุ่ม BTS ดิ่งหนัก หลัง`คีรี`ถูกตั้งข้อหาทุจริตรถไฟฟ้าสายสีเขียว
13 มี.ค. 2566

ราคาหุ้นในกลุ่ม BTS ร่วงหนัก นักลงทุนผวา ข่าว "เจ้าสัวคีรี กาญจนพาสน์" และบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  หรือ BTSC ซึ่งเป็นบริษัทย่อย BTS ถูกป.ป.ช. ตั้งข้อกล่าวหาทุจริตรถไฟฟ้าสายสีเขียว หวั่นสัญญาจ้างเดินรถส่วนต่อขยายเป็นโมฆะ แถมวิตกสัมปทานเดิมที่จะหมดอายุในอีก 6 ปีข้างหน้าไม่ได้ต่อสัญญา  


ทันทีที่เปิดตลาด ราคาหุ้น BTS หรือ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  หรือ BTSC ราคาปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงเฉียดฟอร์ ถึง 2.15 บาท อยู่ที่ 5.40 บาท จากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ 7.55 บาท ก่อนจะเริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามา และมาปิดตลาดภาคเช้าที่ 6.95 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ 7.95% รับข่าวร้าย นายคีรี กาญจนพาสน์ ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใญ่ และะบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)  หรือ BTSC ซึ่งเป็นบริษัทย่อย BTS ถูกป.ป.ช. ตั้งข้อกล่าวหาทุจริตรถไฟฟ้าสายสีเขียว ร่วมกับ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเพมหานคร กรณีว่าจ้าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ไปจนถึงปี 2585 


ขณะที่หุ้น VGI เป็นผู้ให้บริการโฆษณาบนรถไฟฟ้าสายสีเขียว ในเครือ BTS ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน ระหว่างชั่วโมงซื้อขายลงไปแตะต่ำสุดที่ 3.92 บาท ก่อนจะมาปิดตลาดภาคเช้า 3.98 บาท ลดลง 0.30 บาท หรือ 7.01%  


รวมถึง BTSGIF หรือ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท ซึ่ง BTSC ได้ขายรายได้ค่าโดยสารสุทธิในอนาคตที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินงานจากรถไฟฟ้าสายสีเขียวสายหลักที่เหลืออยู่ของสัมปทานที่ทำกับ กทม. ให้แก่ BTSGIF ราคาระหว่างชั่วโมงซื้อขายลงไปแตะต่ำสุดที่ 3.58 บาท ก่อนจะขยับขึ้นมาปิดตลาดภาคเช้าที่ 3.64 บาท ลดลง 0.06 บาท หรือ 1.62% 


นักวิเคราะห์โบรกเกอร์ กล่าวว่า ข่าวร้ายที่กระทบหุ้นกลุ่ม BTS เนื่องจาก คณะกรรมการ ป.ป.ช. มติแจ้งข้อกล่าวหา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ขณะดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเพมหานคร และพวก รวม 13 ราย กรณีว่าจ้าง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ไปจนถึงปี 2585 ซึ่ง 2 ใน 13 ราย ที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหา คือ นายคีรี กาญจนพาสน์ ตำแหน่งกรรมการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน  BTS ส่วนอีกราย คือบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC  


โดยผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 13 ราย ถูกแจ้งข้อกล่าวหาว่า กระทำทุจริตในการทำสัญญาการให้บริการเดินรถ และซ่อมบำรุงโครงการขนส่งมวลชนกรุงเทพมหานคร ระหว่างบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ผู้ว่าจ้าง ในฐานะวิสาหกิจของกรุงเทพมหานคร กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC ผู้รับจ้าง เมื่อวันที่ 8 พ.ค.55 ในวงเงินกว่า 190,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการจ้างเดินรถไฟฟ้า 3 เส้นทาง ประกอบด้วย 1.ส่วนต่อขยายสายสุขุมวิท (สถานีอ่อนนุช-แบริ่ง) 2.สายสีลม (สถานีสะพานตากสิน-วงเวียนใหญ่) 3.ว่าจ้างเดินรถไฟฟ้าในเส้นทางสถานีหมอชิต-อ่อนนุช และสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ซึ่งจะหมดสัญญาสัมปทานในปี 2572 ออกไปอีก 13 ปี โดยให้สัญญาว่าจ้าง BTSC เดินรถทั้ง 3 เส้นทางดังกล่าว ไปสิ้นสุดพร้อมกันในปี 2585


ความน่ากังวลของการแจ้งข้อกล่าวหาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. หากตรวจสอบแล้ว ปรากฎว่าสัญญาว่าจ้าง ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะมีผลให้สัญญานิติกรรมใดๆ รวมทั้งสิทธิต่างๆ จะเป็นโมฆะหรือไม่ และอาจจะทบต่อรายได้ค่าโดยสาร และผลการดำเนินงานในอนาคตของ  BTS หรือไม่ 


นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่น่ากังวลเรื่องสัญญาสัมปทานเดิม ที่ BTSC ทำกับกทม. ซึ่งจะหมดสัญญาในปี 2572 หรืออีกแค่ประมาณ 6 ปีเท่านั้น หากการแจ้งข้อกล่าวหาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ตัดสินว่ามีความผิด อาจจะส่งผลกระทบไม่ได้รับการต่อสัญญาในส่วนของสัมปทานเดิม โดยช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา BTS พยายามเรียกร้องรัฐบาลให้ต่อสัญญาออกไปอีก 30 ปี แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป จนมีกระแสข่าว ผู้บริหาร BTS ออกมากดดัน ด้วยการใช้สื่อบนรถไฟฟ้า ทวงหนี้กทม. 3 หมื่นล้าน

Copyrights © 2021 All Rights Reserved by Clubhoon.com