SMK รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางแล้ว วาง 3 แนวทางแก้ปัญหา ทั้งปรับโครงสร้างทุน หาแหล่งทุนใหม่ ปรับเงื่อนไขชำระหนี้ เตรียมแผนกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ
เมื่อสักครู่ที่ผ่านมา บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด(มหาชน) หรือ SMK รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางแล้ว
โดยบริษัทฯ ระบุว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ได้ออกประกาศหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอความยินขอมในการฟื้นฟูกิจการของบริษัทประกันวินาศภัย พ .ศ.2565 เมื่อวันที่ 12 เมบายน 2565 ซึ่งกำหนดรายละเอียดในกรณีการขอความยินยอมยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทประกันวินาศภัย คณะกรรมการบริษัทฯ ได้พิจารณาและมีมติเห็นชอบให้บริษัทฯ ยื่นขอความยินยอมเพื่อคำร้องขอต่อศาลให้พื้นฟูกิจการต่อสำนักงานคปภ. ซึ่งบริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ฟื้นฟูกิจการต่อสำนักงาน คปภ. เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2565 นั้น
ภายหลังจากที่สำนักงาน คปภ. ได้พิจารณาคำขอดังกล่าวแล้ว เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 สำนักงาน คปภ. จึงได้ให้ความยินยอมเป็นหนังสือต่อบริษัท ให้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง โดยบริษัทฯ ต้องยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ ต่อศาลล้มละลายกลางภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่ได้รับหนังสือ ดังกล่าว
ในการนี้ บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่า ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2565 บริษัทฯ ได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลางแล้ว โดยบริษัทฯ ขอชี้แจงสาระสำคัญของคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ ดังนี้
1. บริษัทฯ ในฐานะลูกหนี้ เป็นผู้ขึ้นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง
2. บริษัทฯ เสนอบริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ลูกหนี้เป็นผู้ทำแผน
3. แนวทางของแผนฟื้นฟูกิจการในเบื้องต้น ได้แก่
3.1 การหาแหล่งเงินทุนใหม่และปรับโครงสร้างทุน โดยเฉพาะการเพิ่มทุนเพื่อระดมเงินจากผู้ร่วมทุนใหม่ เพื่อนำมาใช้ในการชำระหนี้ และ /หรือ เพื่อปรับโครงสร้างทุนให้มีอัตราส่วนความ เพียงพอของเงินกองทุนเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด
3.2 การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระหนี้ ขยายระยะเวลาชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้ เสนอชำระหนี้
ด้วยการแปลงหนี้เป็นทุน
3.3 การศึกษาและจัดเตรียมแผนและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจประกันภัยให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ การฟื้นฟูกิจการเป็นไปเพื่อการแก้ไขปัญหาการะหนี้ค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ด้วยวิธีการที่มีกฎหมายรองรับและให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยบริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจตามปกติอย่างต่อเนื่องในระหว่างที่เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ รวมถึงการให้ความคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยต่าง ๆ เช่น ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจและภาคบังคับ ประกันอัคคีภัย ประกันภัยเบ็ดเตล็ด และประกันขนส่งทางทะเล โดยบริษัทฯ จะดูแลและชำระค่าสินไหมทดแทนตามที่กำหนดไว้ในกรมธรรม และชำระค่าใช้จ่ยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจตามทางการค้าปกติ
บริษัทฯ จะแจ้งให้ทราบถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของบริษัทฯ รวมถึงความคืบหน้าอื่นเพิ่มเติมต่อไป